ไทยออยล์ ร่วมกับ กรมเจ้าท่า, ศรชล.ภาค 1, IESG และหน่วยงานพันธมิตร จัดการฝึกซ้อมแผนรับมือมลพิษทางน้ำฯ..

นายวิวัธน์  ชิดเชิดวงศ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า(ด้านปลอดภัย) เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมฝึกซ้อมแผนปฏิบัติการขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์แห่งชาติ ครั้งที่ 14 (14th Thailand Oil and Chemical Spill Response Exercise)  พร้อมด้วย  พล.ร.ต.อโศก ศรีสวัสดิ์  ผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายอำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1  นายเสริมศักดิ์ นันทพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารคุณภาพองค์กร กลุ่มไทยออยล์  และ หน่วยงานพันธมิตรจากภาครัฐ เอกชน และชุมชน เข้าร่วมงาน

วันนี้( 20 พ.ค. )  นายวิวัธน์  ชิดเชิดวงศ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า(ด้านปลอดภัย) เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมฝึกซ้อมแผนปฏิบัติการขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์แห่งชาติ ครั้งที่ 14 (14th Thailand Oil and Chemical Spill Response Exercise)  พร้อมด้วย  พล.ร.ต.อโศก ศรีสวัสดิ์  ผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายอำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1  นายเสริมศักดิ์ นันทพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารคุณภาพองค์กร กลุ่มไทยออยล์  และ หน่วยงานพันธมิตรจากภาครัฐ เอกชน และชุมชน เข้าร่วมงาน

นายวิวัธน์  ชิดเชิดวงศ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า(ด้านปลอดภัย)   กล่าวว่า  การฝึกซ้อมแผนปฏิบัติการขจัมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์แห่งชาติ ในวันนี้ ขอขอบคุณบริษัท บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ที่ให้การสนับสนุน ทั้งสถานที่แล สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และต้อนรับผู้เข้าร่วมการฝึกซ้อมทุกท่านในครั้งนี้เป็นอย่างดียี่ตลอดจนที่ผ่านมาได้ให้การสนับสนุนการฝึกอบรมและประชุมเชิงปฏิบัติการฯ เพื่อให้ความและเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เป็นที่ทราบกันดีว่า แหล่งน้ำไม่ว่าทั้งทะเลหรือแม่น้ำเป็นทรัพยากรที่มีค่ายิ่ง ทั้งเป็นแหล่ผลิตอาหารที่สำคัญ เป็นเส้นทางในการสัญจรทางน้ำ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียของประเทศ อีกทั้งเป็นที่ตั้งของท่าเรือที่สำคัญ และยังมีกิจกรรมเกี่ยวกับการสัญจรของเรีประเภทต่างๆ ด้วยการดำเนินกิจกรรมเหล่านี้ จึงมีโอกาสทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเห ที่ทำให้เกิดมลพิษน้ำมันหรือสารเคมีภัณฑ์รั่วไหลลงสู่แหล่งน้ำได้ ทำให้มีความจำเป็นที่ต้องเฝ้าระวิและเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษที่อาจเกิดขึ้นจากกิจกรรมดังกล่าว

นายเสริมศักดิ์ นันทพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารคุณภาพองค์กร กลุ่มไทยออยล์ กล่าวว่า  การฝึกอบรม ฝึกซ้อมแผนปฏิบัติ ฯ  ในวันนี้ กลุ่มไทยออลย์ ได้ร่วมกับกรมเจ้าท่า ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) สมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (IESG) และหน่วยงานพันธมิตรจากทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน จัดการฝึกอบรมและซ้อมแผนปฏิบัติการขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์แห่งชาติ ครั้งที่ 14 (14th Thailand Oil and Chemical Spill Response Exercise) ระหว่างวันที่ 20–22 พฤษภาคม 2568 ณ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

การฝึกซ้อมดังกล่าว จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ภายใต้ “แผนจัดการมลพิษทางน้ำจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์แห่งชาติ” (แผนชาติ) โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความรู้ เพิ่มความพร้อมในการเผชิญเหตุฉุกเฉิน และยกระดับมาตรการตอบสนองร่วมกันของทุกภาคส่วนให้มีความแม่นยำ รวดเร็ว และสอดคล้องกับสถานการณ์จริง โดยในปีนี้ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมการฝึกซ้อม อาทิ กองทัพเรือ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมควบคุมมลพิษ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ท่าเรือแหลมฉบัง และบริษัทต่างๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน รวมถึงผู้แทนจากภาคชุมชนจาก 10 ชุมชนรอบโรงกลั่นของกลุ่มไทยออยล์   การฝึกซ้อมแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ได้มีการจัดอบรมให้ความรู้ภาคทฤษฎี เพื่อสร้างพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางและกลไกการจัดการสถานการณ์มลพิษทางน้ำในระดับประเทศ ระหว่างวันที่ 28–30 เมษายน 2568  ที่ผ่านมา

ระยะที่ 2 ระหว่างวันที่ 20–22 พฤษภาคม 2568 เป็นการจัดฝึกซ้อมเชิงปฏิบัติการ โดยแบ่งเป็นการฝึกซ้อมในที่บังคับการ (TABLE TOP EXERCISE) จำนวน 2 วัน และอีก 1 วันเป็นการฝึกภาคสนาม (FIELD EXERCISE) ซึ่งครอบคลุมกระบวนการแจ้งเหตุ ประเมินสถานการณ์ และการตอบโต้เหตุการณ์โดยใช้ทรัพยากรและกำลังเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนอย่างบูรณาการ   ภายหลังจากสิ้นสุดการฝึกภาคสนาม จะมีการสรุปบทเรียนและแลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะร่วมกันระหว่างหน่วยงาน เพื่อใช้ในการพัฒนารูปแบบการฝึกในอนาคตให้มีความสมจริงและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นต่อไป

การจัดการฝึกซ้อมแผนปฏิบัติการในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของกลุ่มไทยออยล์ในฐานะภาคเอกชนที่ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย ความมั่นคง อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม โดยตระหนักเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินธุรกิจจะต้องควบคู่ไปกับการยึดมั่นในเรื่องความปลอดภัยซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญในทุกกระบวนการ ตลอดจนการให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้แก่สังคม ชุมชน และประเทศชาติอย่างมั่นคงในระยะยาว

ทีมข่าว ชลบุรีโพสต์ ออนไลน์ ………… รายงาน